วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสีสวาดหรือแมวโคราช (Korat cat)



แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)

           แมวสีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ  อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากันเลย



  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
  • ลักษณะ     ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
    - ลักษณะสีขน  ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
    - ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
    - ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน
    - ลักษณะของหาง  หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
                คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมาก
                      ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
    ขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี


  • อุปนิสัย   แมวโคราชมีนิสัยที่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด แมวโคราชจะมีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำแม่น ขี้ประจบ ถ้าหากเรานำแมวโคราชไปปล่อยในต่างสถานที่ แมวฯ สามารถที่จะกลับมาที่บ้านของตัวได้ มีนิสัยคล้ายสิงห์โต จะสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบสถานที่อยู่อาศัย แมวต่างถิ่นที่เป็นตัวผู้จะไม่ให้กล้ำกลายเข้ามา ยกเว้นตัวเมีย ตัวเมียถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงจะแบ่งชั้นวรรณะกัน ถ้าหากเราให้อาหารรวมกัน ตัวที่เป็นจ่าฝูงจะกินอาหารก่อน และไล่รองลงมา แต่การเลี้ยงลูกกลับมีนิสัยเหมือนสิงห์โต ตัวเมืองจะช่วยกันเลี้ยงลูก แมวถึงแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แม้แต่อาหารก็จะให้ลูกแมวกันก่อนแล้วค่อยกินทีหลัง แม่แมวจะฝึกลูกของตัวเองในการดำรงชีพ และป้องกันตัวโดยการสัตว์เล็กมาให้หยอกเล่นเป็นการฝึกการหาอาหารและป้องกันตัวเอง แมวโคราชมีนิสัยที่จะเจ้าของแม่นมาก ถ้าคนแปลกหน้าเข้ามาจะไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่เลย แต่ถ้าเป็นเจ้าของจะวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขา ประจบสอพลอ

  • การดูแล  แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ  โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์(โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคที่นางเอกเกาหลีมักเป็นตอนจบ = ='') ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ
         สำหรับราคาของเจ้าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดก็เริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไปและมีราคาสูงถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้  เพราะคนไทยถือว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล ยิ่งมีลักษณะตรงตามตำราละก็ยิ่งทำให้ราคาสูงเข้าไปใหญ่  สำหรับใครสนใจแมวพันธุ์นี้ก็หามาเลี้ยงสักตัวนะคะ  ถือว่ช่วยกันอนุรักษ์แมวไทยให้คงงอยู่ไปโดยไม่สูญหายกันด้วยค่ะ

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสิงหะปุระ (Singapura cat)


แมวพันธุ์สิงหะปุระ (Singapura)

       ฟังชื่อแล้วแมวพันธุ์นี้ดูไปคล้อง ๆ กับประเทศสิงคโปร์ใช่ไหมละคะ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักในไทยเท่าไหร่ แล้วคุณทราบไหมว่าแมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็กที่สุดในโลกสำหรับแมวพันธุ์แท้เลยนะ ว่าแต่แมวสิงหะปุระนี่มันเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์รึเปล่า  และความน่ารักของมันนี่ขนาดไหนกัน  ขอบอกว่าแมวพันธุ์นี้น่ารักสุด ๆ ไปรู้จักมันกันเลยดีกว่าค่ะ



  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศสิงคโปร์  ประเทศใกล้บ้านเรากันนี่แหละค่ะ  เป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่ได้ถูกนะมาพัฒนาในประเทศอเมริกาจนเป็นที่ยอมรับ
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์แท้ทั้งหลาย แถมมันยังมีดวงตาและใบหูที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูน่ารักมาก ๆ  ลักษณะมันคล้ายกับแมวพันธุ์อะบิซิเนียนเลยนะคะ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วมีเพียงหูที่ใหญ่เหมือนกันเท่านั้น นอกนั้นจะแตกต่างหมด  สีขนของมันคือสี sepia agouti เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือสีน้ำตาลเข้มที่กระจายอยู่บนสีพื้นสีงาช้างตลอดด้านบนของลำตัว  หางมีความยางปกติ  แต่เท้าของมันมีขนาดเล็กกว่าแมวทั่วไป  สีตาของแมวพันธุ์นี้มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีเขียวหรือสีเหลือง


  • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบก่อกวนผู้คน เรียกว่ามันขี้เล่นสุด ๆ เลยคะ แถมขี้อ้อนชอบให้คนสนใจ บางครั้งก็ชอบมานั่งตักเพื่อเรียกร้องความสนใจ  แถมมันยังขี้สงสัย  เรียกว่าเป็นแมวที่ฉลาดและมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว  เรียกว่าเหมาะกับคนที่ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าแมว และต้องการมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงมาก ๆ เลยคะ
  • การดูแล  แมวขนสั้นเรียกว่าแปรงขนก็ง่ายอยู่แล้วใช่ไหมคะ การเลี้ยงดูส่วนใหญ่ก็ง่ายเช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษก็คือ มันเป็นแมวขี้เล่น  มึความเป็นนักล่า  ควรหาของเล่นไว้ให้มันเยอะ ๆ นะคะ  และระวังเรื่องการขีดข่วนฟอร์นิเจอร์ของคุณด้วยมันออกจะซุกซนอะเนอะ



          ราคาแมวพันธุ์สิงหะปุระถือวว่าสูงมาก ๆ นะคะเพราะจัดเป็นแมวหายากมีทั่วโลกกจำนวนน้อย  แถมในไทยยิ่งมีน้อยไปใหญ่  คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยรู้จักแต่ถ้าวันนี้คุณรู้จักกับมันแล้ว และชอบอยากจะซื้อมาเลี้ยงซํกตัวละก็ราคาขั้นต่ำน่าจะเริ่มที่ 60,000 บาทค่ะ  สูงใช่ไหมละคะ  แต่ถ้าใครเงินเหลือ ๆ อยากได้เจ้าแมวซุกซน ขี้เล่น แถมหน้าตาน่ารักขนาดนี้ละก็ซื้อเถอะค่ะ  จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน อิอิ ^ ^


วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมววิเชียรมาศ (Siamese cat)


แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)

      จากครั้งที่แล้วพูดถึงแมวบาหลีกันไปแล้ว  คราวนี้มารู้จักต้นกำเนิดของมันกันดีกว่าก็คือแมววิเชียรมาศอันสวยงามของไทยเรานี่เอง  เป็นแมวไทยที่ดังมากในต่างประเทศ  และถือเป็นต้นตำรับของการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย เท่าที่รู้ ๆ ก็คือแมวบาหลีอย่างที่กล่าวไปและแมวหิมาลายันด้วยค่ะ



  • ถิ่นกำเนิด  ประเทศไทย  เป็นแมวโบราณที่มักเลี้ยงไว้ในวังตั้งแต่สมัยอยุธยา  เพราะเชื่อว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล  มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง


  • ลักษณะ   ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

             ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)

             ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว

             ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า

             ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

             
                        ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี



  • อุปนิสัย   มีความสวยสง่า ลักษณะปราดเปรียว และระแวดระวังภัยให้ตัวเองดี  นิสัยรักสะอาด  มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยชอบถูกบังคับหรือสั่งให้ทำนั่นทำนี่  แต่มีความเชื่องกับเจ้าของและรักเจ้าของ อาจจะไม่สนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ คือไม่เข้าหาคนแปลกหน้า และอาจข่วนคนแปลกหน้าถ้าทำให้มันตกใจ  แมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยผูกพันกับเจ้าของ รักบ้าน   ชอบเดินสำรวจบริเวณบ้านและหาของบันเทิงใจได้เสมอกับสิ่งรอบตัว เช่น แมลงเล็กๆ
  •  การดูแล  แมวไทยของเรามักเป็นแมวขนสั้นใช่ไหมคะ การแปรงขนก็ไม่ค่อยจำเป็นนักเพราะแมวพันธุ์นี้มักเลียขนทำความสะอาดเองอยู่แล้ว  และอย่าอาบน้้ำให้มันนะคะเพราะว่าแมวพันธุ์นี้มักมีอาการป่วยเสมอ  เป็นแมวที่ไม่ถูกกับน้ัำจริง ๆ เป็นแมวที่สุขภาพแข็งแรง เลี้ยงง่าย และมีอายุได้ถึง 15-20 ปี
ราคาแมววิเชียรมาศเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป  แมวพันธุ์นี้ถือเป็นที่ต้องการของใครหลายคนเพราะว่าตามตำราจัดว่าเป็นแมวมงคล  

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวบาหลี (Balinese cat)


แมวพันธุ์บาหลี (Balinese)

           แมวพันธุ์บาหลีจะว่าไปมันก็คล้าย ๆ แมวแร็กดอลล์กับแมววิเชียรมาศเหมือนกันนะ  จะเหมือนอย่างไรนั้นก็ลองเข้าไปอ่านบล็อกอันเก่าที่ได้เขียนเอาไว้นะคะ  ส่วนจุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเจ้าแมวบาหลีนี่มันมีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตาคู่สวยและใบหน้าของมัน  




  • ถิ่นกำเนิด  ได้ยินชื่อว่าบาหลีหลายคนคงนึกว่ามาจากประเทศอินโดนีเซียหรือเปล่าแต่ไม่ใช่นะคะ  มันเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ในอเมริกา
  • สายพันธุ์   มาจากแมววิเชียรมาศ  โดยเกิดมาจากการที่มนุษย์นำมาผสมพันธุ์เพื่อต้องการความงามของแมววิเชียรมาศแต่ต้องการขนที่ยาวด้วย  เพราะปกติแมววิเชียรมาศจะขนสั้น  ส่วนทำไมถึงต้องชื่อว่าพันธุ์บาหลีนั้นนะเหรอ  เกิดจากการที่คนผสมพันธุ์เจ้าแมวพันธุ์นี้มองเห็นความสง่าและสวยงามเหมือนกับนักเต้นบาหลี  และถ้าหากจะให้ตั้งชื่อว่า long-haired Siamese(แมววิเชียรมาศพันธุ์ขนยาว) ก็เป็นชื่อที่ดูยาวไปและดูไม่น่าจดจำนัก


  • ลักษณะ  เป็นแมวขนยาวนุ่ม  รูปร่างผอมยาว  หัวเป็นรูปลิ่ม ตาสีฟ้าสดใส หูตั้ง ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆเกิดขึ้น (ขนจะหดสั้น) มีสีทึบ  และสีของมันที่เป็นที่ยอมรับมีเพียงสีที่เหมือนกับแมววิเชียรมาศเท่านั้นว่าเป็นแมวบาหลี  เพราะแม้แมวจะมีสีอื่นด้วยแต่ไม่นับว่าเป็นแมวบาหลีนะคะ
  • อุปนิสัย  เหมือนกับแมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่ค่อนข้างฉลาด ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ  ขี้เล่น  มีเสียงร้องที่เบากว่าแมววิเชียรมาศ  แมวบาหลีไม่ค่อยขีดข่วนเวลามันหงุดหงิดสักเท่าไหร่ แต่มันอาจจะครางหรือคำรามซะมากกว่า
  • การดูแล  แมวบาหลีมีอายุเฉลี่ยราว 13-15 ปี  ขนของมันดูแลง่ายกว่าเจ้าเปอร์เซีย  การแปรงขนหรือแปรงฟันนั้นแมวบาหลีมักจะยอมให้เจ้าของเป็นคสทำมากกว่าคนอื่น  แมวบาหลีมักทำความสะอาดขนตัวเองอยู่เป็นประจำและเป็นแมวที่ค่อนข้างเนี๊ยบ แต่ถ้าหากมันไปเปลื้อนมาละก็คุณก็อาบน้ำให้มันด้วยน้ำยาสระขนอย่างอ่อนโยนได้



          แมวบาหลีมีราคาตกอยูราว 2,500-3,000 บาทขึ้นไป  ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับคนที่อยากเลี้ยงแมวไทยแต่รักขนยาว ๆ ของแมว  พันธุืนี้ตอบโจทย์ได้แน่นอนค่ะ

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสฟิงซ์ (Sphynx cat)


แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)

        แมวพันธุ์สฟิงซ์หลายคนรู้จักกันดีในฉายเจ้าแมวไร้ขน  หรือหลายคนคงไปนึกถึงรูปปั้นที่หัวเป็นคนตัวเป็นสิงโตที่อียิปต์ไม่ใช่นะคะเราพูดถึงแมวกันอยู่ = = ''  แมวพันธุ์นี้บางคนก็ว่าแมวประหลาดแต่บางคนกลับหลงรักเจ้าแมวพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะอะไรนะเหรอมาดูกันดีกว่า



  • ถิ่นกำเนิด   มีคนถกเถียงกันว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์หรือฮาวายกันแน่   แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือมันถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในแคนดา
  • ลักษณะ     หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ 


  • อุปนิสัย    เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้  เชื่อฟังเจ้าของ  มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมาก ๆ แถมยังขี้อ้อน ขี้ประจบเจ้าของอีกต่างหาก  ถ้ามันต้องหารความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบา ๆ ของมัน แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ
  • การดูแล   แมวไร้ขนมีข้อดีเป็นอย่างยิ่งต่อการดูแล  แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องดูแลเลยนะคะ  เพราะด้วยการไม่มีขนของมันผิวหนังมันจึงผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพ่ือปกป้องผิว  จึงต้องการการอาบน้ำและดูแลอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ผิวหนังของมันมีสุขภาพดี  และถ้าคุณพามันไปออกแดดละก็ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวทารกด้วยนะคะ  เพื่อปกป้องผิวหนังของมันจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด




       แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย  เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ในบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายเลย  แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไปด้วยแต่ยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่ว ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้นะคะ

      ราคาเจ้าแมวพันธุ์นี้ก็ไม่เบานะคะ 20,000 บาทขึ้นไปกันเลยทีเดียว  แหม่ ๆ เห็นมันหน้าตาแปลก ๆ อย่างนี้ราคาสูงใช้ได้นะคะ  คนมีอันจะกินก็นิยมเลี้ยงกันด้วยละค่ะ