วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แมวทราย (sand cat)



แมวทราย  (Sand cat)


           สำหรับคำจำกัดความย่อ ๆ ของแมวทราย (Sand cat) นั้นกล่าวได้ว่าเป็นแมวป่าขนาดเล็กกระจายอยู่ตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย มีขนาดลำตัวยาว 39-57 เซนติเมตร หนัก 1.4-3.4 กิโลกรัม มีขนยาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างนิ้วเท้า สามารถอาศัยอยู่ได้ในอุณภูมิตั้งแต่ -5 ถึง 52 องศาเซลเซียส สามารถอดน้ำได้เป็นเดือนโดยอาศัยน้ำที่อยู่ในอาหารเท่านั้น  ได้ยินกันขนาดนี้แล้วก็คงอยากรู้ข้อมูลอย่างละเอียดแล้วใช่ไหมคะ 





  • ถิ่นที่อยู่อาศัย  กระจายอยู่ทั่วไปตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย โดยพบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา  ทะเลทรายอราเบียน  ทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
  • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Feris magarita เป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย
  • ลักษณะ     แมวทรายเป็นที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 1.4-3.1 กิโลกรัม   ลำตัวสีน้ำตาลซีดจนถึงเทาอ่อน ขนแน่น หนานุ่ม บริเวณหลังเข้มขึ้นเล็กน้อย หน้าท้องซีดจาง มีลายริ้วจาง ๆ ตามลำตัวและขา มีเส้นสีน้ำตาลแดงพาดที่แก้มตั้งแต่หางตา ครึ่งล่างของหน้าและหน้าอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ใบหูใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายเรียว สีน้ำตาลอมแดง ปลายหูสีดำ ใบหูอยู่ห่างกันและค่อนมาทางข้างหัว ปลายหางมีปล้องบาง ๆ หลายปล้อง ปลายหางสีดำ ใบหน้ากว้าง ดวงตาใหญ่ อุ้งตีนมีขนยาวหนาแน่นปกคลุม
      แมวทรายเป็นแมวที่เกิดมาเพื่ออยู่ในทะเลทรายอย่างแท้จริง ขนที่คลุมอุ้งตีนช่วยป้องกันความร้อนจากพื้นดินและช่วยเก็บเสียงขณะเดินบนพื้นผิวที่หยาบร่วน เมื่อเดินบนทรายจะแทบไม่ปรากฏรอยตีนเลย ประสาทหูไวมาก เหมาะสำหรับการหาเหยื่อในพื้นที่ที่เหยื่อหายาก คาดว่าแมวทรายได้ยินเสียงอัลตราโซนิกจากเหยื่อที่อยู่ใต้ดินได้เช่นเดียวกับเซอร์วัล




  • อุปนิสัย    แมวทรายปีนป่ายและกระโดดไม่เก่ง แต่เป็นยอดนักขุด ทักษะการขุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในสถานที่ของแมวชนิดนี้  เพราะต้องใช้ในการขุดโพรงเพื่อพักผ่อนและหาเหยื่อ อุ้งเล็บไม่คมมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการอาศัยในทะเลทรายจึงไม่มีโอกาสได้ฝนเล็บบ่อยนัก เวลาเดินบนพื้นที่โล่ง จะเดินย่องต่ำ ๆ หูที่ใหญ่ช่วยในการค้นหาเสียงจากความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาได้เป็นอย่างดี เหยื่อของแมวทรายได้แก่ เจอร์บิล เจอร์บัว โวล กระต่ายป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง ศัตรูตามธรรมชาติได้แก่งูพิษ หมาจิ้งจอก และนกเค้าแมวขนาดใหญ่
      แมวทรายหากินเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในโพรงตื้น ๆ ที่ขุดไว้ตามเนินทราย ในดงไม้แคระ หรืออาจนอนอยู่ไม่ไกลจากปากโพรง โดยนอนหงายหลังซึ่งเป็นท่านอนที่ระบายความร้อนได้ดี แมวทรายแต่ละตัวอาจยืมรังใช้กันได้ เมื่อตกค่ำ แมวทรายจะซุ่มสังเกตการณ์อยู่ปากโพรงประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะออกจากโพรงไป แต่ละคืนแมวทรายจะเดินทางเฉลี่ย 5.4 กิโลเมตร เมื่อกลับมาที่รังในตอนรุ่งสางก็จะมาซุ่มสังเกตการณ์ที่ปากโพรงอีกครั้งก่อนจะเข้ารังนอน



  • ทางชีววิทยา   ในทะเลทรายซาฮารา ลูกแมวทรายมักเกิดในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ในเติร์กเมนิสถานลูกแมวเกิดในเดือนเมษายน ในปากีสถานมักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนในแหล่งเพาะเลี้ยงไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน

             ตั้งท้องนานประมาณ 60-69 วัน ออกลูกคราวละ 1-8 ตัว ปกติ 2-3 ตัว ออกลูกในโพรงหรือหลืบหิน ลูกแมวแรกเกิดหนัก 50-60 กรัม ลืมตาได้เมื่ออายุได้สองสัปดาห์ ลูกแมวทรายพัฒนาเร็วมาก หลังจากเกิดก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 12 กรัม เริ่มออกจากรังได้เมื่ออายุได้ 3-4 สัปดาห์ กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุได้ 3-4 เดือนก็แยกจากแม่ไปหากินเองได้แล้ว และจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 9-14 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 13 ปี


           แมวทรายจัดว่าเป็นสัตว์ที่หายาก และไม่ค่อยพบการนำมาเลี้ยง  แต่ความหายากของมันก็ไม่ได้หมายความว่าแมวพันธุ์นี้จะสูญหายไปได้ง่าย เพราะการที่มันอยู่ในที่ทุรกันดารแช่นนี้จึงทำให้มันปลอดภัยจากอันตรายได้มากพอสมควร  และคนท้องถิ่นยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าแมวชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของศาสดามูฮัมเม็ดและลูกสาว จึงไม่ถูกล่าจากคนท้องถิ่น  ถ้าอยากเห็นตัวจริงเชื่อว่าตามสวนสัตว์น่าจะมีให้เห็นอยู่นะคะ


    ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก



วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสีสวาดหรือแมวโคราช (Korat cat)



แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)

           แมวสีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ  อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากันเลย



  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
  • ลักษณะ     ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
    - ลักษณะสีขน  ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
    - ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
    - ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน
    - ลักษณะของหาง  หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
                คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมาก
                      ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
    ขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี


  • อุปนิสัย   แมวโคราชมีนิสัยที่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด แมวโคราชจะมีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำแม่น ขี้ประจบ ถ้าหากเรานำแมวโคราชไปปล่อยในต่างสถานที่ แมวฯ สามารถที่จะกลับมาที่บ้านของตัวได้ มีนิสัยคล้ายสิงห์โต จะสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบสถานที่อยู่อาศัย แมวต่างถิ่นที่เป็นตัวผู้จะไม่ให้กล้ำกลายเข้ามา ยกเว้นตัวเมีย ตัวเมียถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงจะแบ่งชั้นวรรณะกัน ถ้าหากเราให้อาหารรวมกัน ตัวที่เป็นจ่าฝูงจะกินอาหารก่อน และไล่รองลงมา แต่การเลี้ยงลูกกลับมีนิสัยเหมือนสิงห์โต ตัวเมืองจะช่วยกันเลี้ยงลูก แมวถึงแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แม้แต่อาหารก็จะให้ลูกแมวกันก่อนแล้วค่อยกินทีหลัง แม่แมวจะฝึกลูกของตัวเองในการดำรงชีพ และป้องกันตัวโดยการสัตว์เล็กมาให้หยอกเล่นเป็นการฝึกการหาอาหารและป้องกันตัวเอง แมวโคราชมีนิสัยที่จะเจ้าของแม่นมาก ถ้าคนแปลกหน้าเข้ามาจะไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่เลย แต่ถ้าเป็นเจ้าของจะวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขา ประจบสอพลอ

  • การดูแล  แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ  โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์(โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคที่นางเอกเกาหลีมักเป็นตอนจบ = ='') ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ
         สำหรับราคาของเจ้าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดก็เริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไปและมีราคาสูงถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้  เพราะคนไทยถือว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล ยิ่งมีลักษณะตรงตามตำราละก็ยิ่งทำให้ราคาสูงเข้าไปใหญ่  สำหรับใครสนใจแมวพันธุ์นี้ก็หามาเลี้ยงสักตัวนะคะ  ถือว่ช่วยกันอนุรักษ์แมวไทยให้คงงอยู่ไปโดยไม่สูญหายกันด้วยค่ะ

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสิงหะปุระ (Singapura cat)


แมวพันธุ์สิงหะปุระ (Singapura)

       ฟังชื่อแล้วแมวพันธุ์นี้ดูไปคล้อง ๆ กับประเทศสิงคโปร์ใช่ไหมละคะ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักในไทยเท่าไหร่ แล้วคุณทราบไหมว่าแมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็กที่สุดในโลกสำหรับแมวพันธุ์แท้เลยนะ ว่าแต่แมวสิงหะปุระนี่มันเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์รึเปล่า  และความน่ารักของมันนี่ขนาดไหนกัน  ขอบอกว่าแมวพันธุ์นี้น่ารักสุด ๆ ไปรู้จักมันกันเลยดีกว่าค่ะ



  •  ถิ่นกำเนิด  จากประเทศสิงคโปร์  ประเทศใกล้บ้านเรากันนี่แหละค่ะ  เป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่ได้ถูกนะมาพัฒนาในประเทศอเมริกาจนเป็นที่ยอมรับ
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์แท้ทั้งหลาย แถมมันยังมีดวงตาและใบหูที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูน่ารักมาก ๆ  ลักษณะมันคล้ายกับแมวพันธุ์อะบิซิเนียนเลยนะคะ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วมีเพียงหูที่ใหญ่เหมือนกันเท่านั้น นอกนั้นจะแตกต่างหมด  สีขนของมันคือสี sepia agouti เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือสีน้ำตาลเข้มที่กระจายอยู่บนสีพื้นสีงาช้างตลอดด้านบนของลำตัว  หางมีความยางปกติ  แต่เท้าของมันมีขนาดเล็กกว่าแมวทั่วไป  สีตาของแมวพันธุ์นี้มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีเขียวหรือสีเหลือง


  • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบก่อกวนผู้คน เรียกว่ามันขี้เล่นสุด ๆ เลยคะ แถมขี้อ้อนชอบให้คนสนใจ บางครั้งก็ชอบมานั่งตักเพื่อเรียกร้องความสนใจ  แถมมันยังขี้สงสัย  เรียกว่าเป็นแมวที่ฉลาดและมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว  เรียกว่าเหมาะกับคนที่ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าแมว และต้องการมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงมาก ๆ เลยคะ
  • การดูแล  แมวขนสั้นเรียกว่าแปรงขนก็ง่ายอยู่แล้วใช่ไหมคะ การเลี้ยงดูส่วนใหญ่ก็ง่ายเช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษก็คือ มันเป็นแมวขี้เล่น  มึความเป็นนักล่า  ควรหาของเล่นไว้ให้มันเยอะ ๆ นะคะ  และระวังเรื่องการขีดข่วนฟอร์นิเจอร์ของคุณด้วยมันออกจะซุกซนอะเนอะ



          ราคาแมวพันธุ์สิงหะปุระถือวว่าสูงมาก ๆ นะคะเพราะจัดเป็นแมวหายากมีทั่วโลกกจำนวนน้อย  แถมในไทยยิ่งมีน้อยไปใหญ่  คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยรู้จักแต่ถ้าวันนี้คุณรู้จักกับมันแล้ว และชอบอยากจะซื้อมาเลี้ยงซํกตัวละก็ราคาขั้นต่ำน่าจะเริ่มที่ 60,000 บาทค่ะ  สูงใช่ไหมละคะ  แต่ถ้าใครเงินเหลือ ๆ อยากได้เจ้าแมวซุกซน ขี้เล่น แถมหน้าตาน่ารักขนาดนี้ละก็ซื้อเถอะค่ะ  จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน อิอิ ^ ^


วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมววิเชียรมาศ (Siamese cat)


แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)

      จากครั้งที่แล้วพูดถึงแมวบาหลีกันไปแล้ว  คราวนี้มารู้จักต้นกำเนิดของมันกันดีกว่าก็คือแมววิเชียรมาศอันสวยงามของไทยเรานี่เอง  เป็นแมวไทยที่ดังมากในต่างประเทศ  และถือเป็นต้นตำรับของการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย เท่าที่รู้ ๆ ก็คือแมวบาหลีอย่างที่กล่าวไปและแมวหิมาลายันด้วยค่ะ



  • ถิ่นกำเนิด  ประเทศไทย  เป็นแมวโบราณที่มักเลี้ยงไว้ในวังตั้งแต่สมัยอยุธยา  เพราะเชื่อว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล  มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง


  • ลักษณะ   ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

             ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)

             ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว

             ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า

             ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

             
                        ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี



  • อุปนิสัย   มีความสวยสง่า ลักษณะปราดเปรียว และระแวดระวังภัยให้ตัวเองดี  นิสัยรักสะอาด  มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยชอบถูกบังคับหรือสั่งให้ทำนั่นทำนี่  แต่มีความเชื่องกับเจ้าของและรักเจ้าของ อาจจะไม่สนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ คือไม่เข้าหาคนแปลกหน้า และอาจข่วนคนแปลกหน้าถ้าทำให้มันตกใจ  แมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยผูกพันกับเจ้าของ รักบ้าน   ชอบเดินสำรวจบริเวณบ้านและหาของบันเทิงใจได้เสมอกับสิ่งรอบตัว เช่น แมลงเล็กๆ
  •  การดูแล  แมวไทยของเรามักเป็นแมวขนสั้นใช่ไหมคะ การแปรงขนก็ไม่ค่อยจำเป็นนักเพราะแมวพันธุ์นี้มักเลียขนทำความสะอาดเองอยู่แล้ว  และอย่าอาบน้้ำให้มันนะคะเพราะว่าแมวพันธุ์นี้มักมีอาการป่วยเสมอ  เป็นแมวที่ไม่ถูกกับน้ัำจริง ๆ เป็นแมวที่สุขภาพแข็งแรง เลี้ยงง่าย และมีอายุได้ถึง 15-20 ปี
ราคาแมววิเชียรมาศเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป  แมวพันธุ์นี้ถือเป็นที่ต้องการของใครหลายคนเพราะว่าตามตำราจัดว่าเป็นแมวมงคล  

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวบาหลี (Balinese cat)


แมวพันธุ์บาหลี (Balinese)

           แมวพันธุ์บาหลีจะว่าไปมันก็คล้าย ๆ แมวแร็กดอลล์กับแมววิเชียรมาศเหมือนกันนะ  จะเหมือนอย่างไรนั้นก็ลองเข้าไปอ่านบล็อกอันเก่าที่ได้เขียนเอาไว้นะคะ  ส่วนจุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเจ้าแมวบาหลีนี่มันมีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตาคู่สวยและใบหน้าของมัน  




  • ถิ่นกำเนิด  ได้ยินชื่อว่าบาหลีหลายคนคงนึกว่ามาจากประเทศอินโดนีเซียหรือเปล่าแต่ไม่ใช่นะคะ  มันเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ในอเมริกา
  • สายพันธุ์   มาจากแมววิเชียรมาศ  โดยเกิดมาจากการที่มนุษย์นำมาผสมพันธุ์เพื่อต้องการความงามของแมววิเชียรมาศแต่ต้องการขนที่ยาวด้วย  เพราะปกติแมววิเชียรมาศจะขนสั้น  ส่วนทำไมถึงต้องชื่อว่าพันธุ์บาหลีนั้นนะเหรอ  เกิดจากการที่คนผสมพันธุ์เจ้าแมวพันธุ์นี้มองเห็นความสง่าและสวยงามเหมือนกับนักเต้นบาหลี  และถ้าหากจะให้ตั้งชื่อว่า long-haired Siamese(แมววิเชียรมาศพันธุ์ขนยาว) ก็เป็นชื่อที่ดูยาวไปและดูไม่น่าจดจำนัก


  • ลักษณะ  เป็นแมวขนยาวนุ่ม  รูปร่างผอมยาว  หัวเป็นรูปลิ่ม ตาสีฟ้าสดใส หูตั้ง ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆเกิดขึ้น (ขนจะหดสั้น) มีสีทึบ  และสีของมันที่เป็นที่ยอมรับมีเพียงสีที่เหมือนกับแมววิเชียรมาศเท่านั้นว่าเป็นแมวบาหลี  เพราะแม้แมวจะมีสีอื่นด้วยแต่ไม่นับว่าเป็นแมวบาหลีนะคะ
  • อุปนิสัย  เหมือนกับแมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่ค่อนข้างฉลาด ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ  ขี้เล่น  มีเสียงร้องที่เบากว่าแมววิเชียรมาศ  แมวบาหลีไม่ค่อยขีดข่วนเวลามันหงุดหงิดสักเท่าไหร่ แต่มันอาจจะครางหรือคำรามซะมากกว่า
  • การดูแล  แมวบาหลีมีอายุเฉลี่ยราว 13-15 ปี  ขนของมันดูแลง่ายกว่าเจ้าเปอร์เซีย  การแปรงขนหรือแปรงฟันนั้นแมวบาหลีมักจะยอมให้เจ้าของเป็นคสทำมากกว่าคนอื่น  แมวบาหลีมักทำความสะอาดขนตัวเองอยู่เป็นประจำและเป็นแมวที่ค่อนข้างเนี๊ยบ แต่ถ้าหากมันไปเปลื้อนมาละก็คุณก็อาบน้ำให้มันด้วยน้ำยาสระขนอย่างอ่อนโยนได้



          แมวบาหลีมีราคาตกอยูราว 2,500-3,000 บาทขึ้นไป  ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับคนที่อยากเลี้ยงแมวไทยแต่รักขนยาว ๆ ของแมว  พันธุืนี้ตอบโจทย์ได้แน่นอนค่ะ

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมวสฟิงซ์ (Sphynx cat)


แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)

        แมวพันธุ์สฟิงซ์หลายคนรู้จักกันดีในฉายเจ้าแมวไร้ขน  หรือหลายคนคงไปนึกถึงรูปปั้นที่หัวเป็นคนตัวเป็นสิงโตที่อียิปต์ไม่ใช่นะคะเราพูดถึงแมวกันอยู่ = = ''  แมวพันธุ์นี้บางคนก็ว่าแมวประหลาดแต่บางคนกลับหลงรักเจ้าแมวพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะอะไรนะเหรอมาดูกันดีกว่า



  • ถิ่นกำเนิด   มีคนถกเถียงกันว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์หรือฮาวายกันแน่   แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือมันถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในแคนดา
  • ลักษณะ     หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ 


  • อุปนิสัย    เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้  เชื่อฟังเจ้าของ  มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมาก ๆ แถมยังขี้อ้อน ขี้ประจบเจ้าของอีกต่างหาก  ถ้ามันต้องหารความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบา ๆ ของมัน แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ
  • การดูแล   แมวไร้ขนมีข้อดีเป็นอย่างยิ่งต่อการดูแล  แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องดูแลเลยนะคะ  เพราะด้วยการไม่มีขนของมันผิวหนังมันจึงผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพ่ือปกป้องผิว  จึงต้องการการอาบน้ำและดูแลอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ผิวหนังของมันมีสุขภาพดี  และถ้าคุณพามันไปออกแดดละก็ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวทารกด้วยนะคะ  เพื่อปกป้องผิวหนังของมันจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด




       แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย  เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ในบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายเลย  แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไปด้วยแต่ยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่ว ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้นะคะ

      ราคาเจ้าแมวพันธุ์นี้ก็ไม่เบานะคะ 20,000 บาทขึ้นไปกันเลยทีเดียว  แหม่ ๆ เห็นมันหน้าตาแปลก ๆ อย่างนี้ราคาสูงใช้ได้นะคะ  คนมีอันจะกินก็นิยมเลี้ยงกันด้วยละค่ะ 


วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวแมงซ์ (Manx cat)


แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)

แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ  แต่โดยภาพรวมของแมวแมงซ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่หางของมันซึ่งไม่เหมือนกับพันธุ์แมวอื่น ๆ อย่างแน่นอน เป็นอย่างไรนั้นมาทำความรู้จักกับมันหน่อยดีกว่า





  • ถิ่นกำเนิด  ประเทศอังกฤษ
  • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์  โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ  แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
  • ลักษณะ    เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า  หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง  ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่ายเลยค่ะ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว


  • อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบเข้าสังคมและอยู่กับผู้คนได้ดี  แต่มันจะขี้อายกับคนแปลกหน้า  สายพันธุ์นี้เป็นแมวที่ฉลาดมากระดับ 5 ดาวและขี้เล่นคล้ายนิสัยของสุนัข  เป็นแมวที่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้ดีกว่าแมวหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมากเลยด้วยค่ะ
  • การดูแล  แมวแมงซ์ต้องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วออกไป  การดูแลตัดเล็บ แปรงฟันและพาไปพบสัตวแพทย์เหมือนแมวปกติ  แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะเกิดกับสายพันธุ์นี้ได้เพราะมักมีปัญหากระโรคสันหลังบกพร่องจากการกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการสั่งการกับระบบประสาทที่ผิดปกติ  และลูกแมวพันธุ์แมงซ์ที่เป็นโรคนี้จะตายภายใน 6 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้แมวที่มีใบรับประกันแล้วละก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นไปหรอกค่ะ



ราคาแมวพันธุ์นี้หาในเว็บไทยเท่าไหร่ก็หาไม่เจอค่ะ  สงสัยเพราะเป็นแมวที่หายากและการเกิดโรคกับลูกแมวก็มีโอกาสสูงจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนไทยรับเอามาเพาะพันธุ์ขายสักเท่าไหร่มั้งค่ะ  แต่อยากจะทดสอบความฉลาดของแมวพันธุ์นี้จัง  สงสัยคงต้องไปทดสอบกันไกลถึงต่างประเทศเลยละค่ะ


วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวหิมาลายัน (Himalayan Persian cat)


แมวพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan Persian)

พอได้ยินว่ารู้จักแมวพันธุ์หิมาลายันกันไหม เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักแต่ถ้าพูดถึงแมวเปอร์เซียก็ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่  แมวหิมาลายันนั้นแท้จริงแล้วเป็นแมวเปอร์เซียสายพันธุ์หนึ่งนี่แหละค่ะ แล้วทำไมต้องเรียกให้ยุ่งยากนะเหรอ  งั้นมาทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า



  • ถิ่นกำเนิด   จากสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่เทือกเขาหิมาลัยนะคะ จากเว็บต่างประเทศทั้งหลายที่ได้เข้าไปศึกษามา)
  • สายพันธุ์   เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)
  • ลักษณะ   เป็นแมวขนาดเล็ก  าค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน  มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย  แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1  จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป  แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วยนะคะ 



  • อุปนิสัย    ชอบซุกซน รักสนุกสนาน ขี้เล่น  มันชอบที่จะมาอยู่คลุกคลีกับคุณและชอบทำตามกิจกรรมที่คุณกระทำอยู่ด้วย  สมกับเป็นแมวที่รักเจ้าของจริง ๆ
  • การดูแล  แมวพันธุ์นี้มีขนยาวเหมือนกับเจ้าเปอร์เซียนั้น  ทำให้การดูแลเหมือนกันเลยค่ะ  แถมเจ้าแมวพันธุ์นี้ชอบที่จะให้แปรงขน ทำความสะอาดอีกด้วย



ทำไมแมวพันธุ์นี้ถึงชื่อหิมาลายันทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยนะเหรอ  ส่วนตัวก็ไม่อาจสรุปได้  ได้แต่เพียงคาดเดาว่าการตั้งชื่อหิมาลัยเกิดจากรูปแบบขนถ้าสัตว์ตัวไหนมีสีขนและมีแต้มจุดแบบนี้อาจจะไม่ต้องจุดเหมือนเป๊ะแบบเจ้าวิเชียรมาศนะคะ  แค่มีแต้มจุดก็มักจะเรียกสายพันธุ์ว่าหิมาลายันค่ะ  เพราะจากที่ได้เรียนมายังมีกระต่ายสายพันธุ์หิมาลายันด้วยนะคะ  ซึ่งมันก็ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยแต่อย่างใด  เชื่อหรือไม่ก็ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะคะ


ราคาเริ่มต้นก็อาจจะสูงกว่แมวเปอร์เซียสักหน่อยนะคะ ราคาอยู่ที่ 4,500 บาทขึ้นไปค่ะ  แต่รับรองว่าถาคุณได้ครอบครงมันจะไม่เหมือนเปอร์เซียไหน ๆ แน่นอนก็มันโดดเด่นจากลูกผสมของแมววิเชียรมาศไทย ๆ ของเราอยู่ด้วย



วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair)


แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair cat)

จากที่เมื่อวานได้พูดถึงแมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ลกันไปแล้วนะคะ  วันนี้ก็ขอต่อกันด้วยกับสายพันธุ์จากชาติอเมริกาอีกสักหนึ่งสายพันธุ์ก็แล้วกัน  ก็คือเจ้าอเมริกัน ช๊อตแฮร์กันดีกว่าเพราะสายพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาก ๆ พอ ๆ กับเจ้าเปอร์เซียกันเลยนะคะ แล้วคุณจำหน้ามันได้ไหมคะว่าเจ้าแมวพันธุ์นี้ได้โฆษณาอาหารแมววิสกัสกันด้วยนะ



  • ถิ่นกำเนิด   จากประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัว และได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสีเขียว  มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ มีตั้งแต่ สีน้ำตาล striking tabby ไปจนถึง แมวสีขาวตาสีฟ้าสดใส หรือ shaded silvers สี smoke และสี camero รวมทั้งสี calico van และสีอื่นในระหว่างนี้ แต่สีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือสี silver tabby โดยจะมีลายสีดำเข้ม พลาดอยู่บนพื้นสีเงิน (ลายเสือ)



  • อุปนิสัย     อเมิรกัน ช๊อตแฮร์เป็นที่รักใคร่และเป็นมิตรกับเจ้าของมาก นิสัยของมันยังปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเจ้าของที่เลี้ยงดูได้  แม้เจ้าพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์จะไม่ต้องการเอาใจใส่มากมายแต่มันก็ชอบให้คุณเล่นด้วยนะคะ เพราะมันเป็นแมวที่รักความสนุกสนานกับการเป็นผู้ล่าบางครั้งมันก็ชอบการเล่นไล่จับสัตว์ของมันไปเรื่อย เป็นแมวที่ฉลาดและเต็มใจที่จะฝึก
  • การดูแล   เป็นแมวที่มีสุขภาพดี แต่สายพันธุ์นี้มักจะมีปัญหาโรคหัวใจเพราะฉะนั้นควรเลือกสายพันธุ์ที่ไม่เกิดโรคนี้นะคะเพราะโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม  ถ้าคุณเกิดไปได้เจ้าพันธุ์นี้ที่เป็นโรคหัวใจ  ลูก ๆ ของมันต่อไปก็จะเป็นโรคหัวใจเช่นกันค่ะ  การดูแลพื้นฐานก็คือแปรงขนให้มัน ตัดเล็บ และทำความสะอาดใบหูของมันเพื่อให้มันมีสุขภาพดีด้วยนะคะ



ราคาของเจ้าแมวพันธุ์นี้ถือว่าไม่แพงมากนะคะมีตั้งแต่ 3,000 ขึ้นไป  ด้วยความน่ารักของมันแถมยังจับหนูได้อีกถือว่าเป็นแมวที่มีประโยชน์และเลี้ยงง่ายอีกต่างหากถือว่าเป็นที่น่าสนใจของใครหลายคน  จนทำให้แมวพันธุ์นี้ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมากเลยคะ 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก



วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวอเมริกัน เคิร์ล (American curl cat)




แมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ล (American curl cat)

       เคยเห็นแมวหูพลิกกันบ้างไหม  แล้วรู้รึเปล่าว่ามีเจ้าแมวหูพลิกพันธุ์นี้อยู่ด้วย  แมวอเมริกัน เคิร์ลเนี่ยถ้าเห็นปุ๊บต้องรู้แน่นอนว่าพันธุ์นี้เพราะหูมันคล้ายมิกกี้เมาส์เลยแหละ  มาดูความน่ารักของมันดีกว่า





  • ถิ่นกำเนิด   จากประเทศสหรัฐอเมริกา  สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นที่ Lakewood ใน California ซึ่งเป็นผลจากการกลายพันธุ์
  • ลักษณะ     เป็นแมวที่มีร่างกายขนาดปานกลาง ลูกแมวอเมริกัน เคิร์ลจะเกิดมาพร้อมกับการมีหูตรงและเริ่มหูของมันจะเริ่มขดภายใน 10 วัน หลังจากนั้น 4 เดือน หูของมันจะไม่เกิดการเปล่ยนแปลงใดๆ ขึ้นอีกแต่เพียงแข็งขึ้นเท่านั้น แมวพันธุ์นี้มีทั้ง Shorthaired และ Longhaired โดยขนของมันจะนุ่มและเรียบเป็นเงา  เจ้าอเมริกัน เคิร์ลตัวผู้จะมีลักษณะสวยและสง่างามกว่าแมวอเมริกัน เคิร์ลตัวเมีย จุดเด่นของสายพนธุ์นี้ที่มีหูพลิกแล้วยังมีดวงตาที่กลมโตคล้ายกับลูกวอลล์นัท 



  • อุปนิสัย     เป็นแมวที่ร่าเริงไม่ดุ มีนิสัยเป็นมิตรกับผู้คน  ซื่อสัตย์ รักสนุกสนาน เข้ากันได้ดีกับเด็ก ๆ และสัตว์อื่นในบ้าน  ไม่ค่อยส่งเสียงร้องมีเพียงเสียงครางเบา ๆ บางเวลาเท่านั้น เค้าว่าอเมริกัน เคิร์ลมีลักษณะคล้ายสุนัขอีกด้วย 
  • การดูแล เป็นแมวที่มีสุขภาพดี  แต่จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดบ่อยครั้ง  เพื่อป้องกันการติดเชื้อและต้องการการดูแลที่อ่อนโยนเพื่อป้องกันความเสียหายกับใบหูของมัน  เพราะถ้าดูแลไม่ดีกระดูกอ่อนที่ใบหูมันจะเกิดความเสียหายได้ง่าย  ก็หูมันแปลกซะขนาดนั้น



ราคาของเจ้าอเมริกัน เคิร์ลนี่ขึ้นหลักหมื่นนะคะ  ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป  และถือว่าเป็นแมวที่มีความน่ารักเรื่องอุปนิสัยที่ขึ้เล่น รักเจ้าของเหมือนกับสุนัขทำให้แมวสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์น่าเลี้ยงเลยก็ว่าได้ค่ะ  แแต่ระวังเรื่องหูหน่อยนะคะ


วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวอะบิซิเนียน (Abysinian cat)



แมวพันธุ์อะบิซีเนียน (Abyssinian)


     อะบิซีเนียนแค่ฟังชื่อเจ้าแมวพันธุ์นี้มันก็ดูโบราณแล้วละ  แต่จริง ๆ แล้วมันก็โบราณนะ = =" แมวพันธุ์นี้ปัจจุบันยังไม่มีคนรู้แน่นอนหรอกว่ามันกำเนิดมาได้อย่างไรจากที่ไหน  แต่ตำนาน (4,000 กว่าปีมาแล้ว)   เค้ากล่าวเล่ากันว่าแมวพันธุ์นี้สืบสายพันธุ์มาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวอียิปต์โบราณ คงเคยเห็นในภาพยนต์กันอ่ะเนอะ เวลาพูดถึงชาวอียิปต์  ก็มักจะนึกถึงเจ้าแมวซึ่งชาวอียิปต์โบราณเค้าเคารพกันว่าเป็นเทพเจ้าเลยนะ  ขนาดทำมัมมี่เหมือนกษัตริย์ที่เอาไปเก็บตามปีระมิดเลยก็ว่าได้



  • ถิ่นกำเนิด  จากประเทศอียิปต์ (ตามตำนาน เมื่อยไหม = ='')
  • ลักษณะ     เป็นแมวขนาดกลาง  เป็นแมวที่มีสีสันภายนอกสวยงาม  ขนสั้นแถมขนของมันในเส้นเดียวกันยังสลับถึง 2 สีเลยนะ ใบหูใหญ่แหลม  ลักษณะเด่นของมันคือสัดส่วนของร่างกายที่ได้รูปพอเหมาะ และท่าทางที่สง่างามของมันนั่นเองจนดูราวกับผู้มีอำนาจ
  • อุปนิสัย    ความกระตือรือร้นและชอบมีปฏิสัมพันธ์เที่ยวเล่นกับแมวตัวอื่น ๆ นอกจากนั้นยับจัดเป็นแมวที่มีความซื่อสัตย์, รักเจ้าของ, เชื่อฟังคำพูดของเจ้าของ และมีความน่ารักน่าเอ็นดู แต่ภายในแฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล มีความรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว และมีความขี้เล่นประสาแมว อะบิสซิเนียนจึงจัดเป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมที่สุดในสายพันธุ์แมวขนสั้นของเอเมริกา

  • การดูแล  แปรงขนให้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และตัดเล็บเท้าทุก ๆ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ตามปกติแมวอะบิสซิเนียนจะเป็นพันธุ์แมวที่ค่อนข้างจะแข็งแรง มีสุขภาพดี มีกิจกรรมทำตลอดเวลา และค่อนข้างจะมีอายุยืน บางตัวสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง 20 ปี การที่มีลักษณะนิสัยชอบทำกิจกรรมตลอดเวลาและไม่ค่อยชอบอยู่นิ่ง จึงควรที่จะคอยดูแลหรือเอาใจใส่โดยให้เล่นหรือทำกิจกรรมอยู่ในเขตหรือขอบข่ายที่สามารถจะควบคุมได้ นอกจากนั้นต้องคอยหมั่นตรวจโปรแกรมการฉีดวัคซีนตามกำหนดต่อสัตวแพทย์ด้วย


          ราคาของเจ้าแมวพันธุ์นี้ก็ตกอยู่ประมาณ 8,000 บาท แมวพันธุ์นี้คนไทยก็ไม่ค่อยเลี้ยงกันสักเท่าไหร่  แต่ถ้าอยากเลี้ยงก็พอมีขายอยู่  คงกลัวว่าจะทำอะไรให้มันไม่พอใจแล้วจะถูกสาปละมั้ง 555 ก็แมวเทพนี่นา อิอิ




วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

แมวไซบีเรียน (Siberian cat)



แมวพันธุ์ไซบีเรียน (Siberian)

    พอได้ยินชื่อไซบีเรียนหลายคนคงนึกว่าพูดจึงเจ้าสุุนัขกันอยู่ใช่ไหมละคะ  แต่ที่จริงแล้วยสายพันธุ์ไซบีเรียนก็เป็นสายพันธุ์แมวอีกชนิดหนึ่งด้วยนะคะ  ถ้างั้นวันนี้เรามาทำควมรู้จักกับเจ้เหมียวสายพันธุ์ไซบีเรียนกันดีกว่าค่ะ 





  • ถิ่นกำเนิด  จากประเทศรัสเซีย
  • สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Siberian forest cat ก็เนื่องจากที่มันเป็นสายพันธุ์แมวที่เกิดจากป่าแล้วได้ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงนั่นเอง  
  • ลักษณะ     เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว  และขนจะสั้นลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ  เหมือนพวกสัตว์ป่าตามสารคดีเลยเนอะ (แหะ ๆ ก็มันเคยเป็นสัตว์ป่ามานี่นา = ='') ก็สภาพอากาศตามป่าที่มันอยู่อย่างรัสเซียนั้นช่างโหดร้ายทารุณ  จุดเด่นของมันเท่าที่สังเกตุนะคะแมวพันธุ์นี้จะมีขนที่แผงขอช่างเหมือนสิงโตตัวน้อยดี ๆ เลยละค่ะ ขนของมันนั้นมีหลากหลายสีตามการผสม แถมร่างกายของเจ้าพันธุ์นี่ช่างแข็งแกร่งสมกับมาจากป่าจริง ๆ


เหมือนสิงโตมว๊ากกก !!! 


  • อุปนิสัย     เป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะคล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร 
  • การดูแล   แมวพันธุ์นี้ต้องการอาหารถึงวันละ 4 มื้อเลยนะมากกว่าสุนัขอีก และอาหารนั้นก็ควรมีสัดส่วนทางโภชนาการที่พอเหมาะกับมันด้วย และต้องเล่นกับมันให้เป็นประจำนะคะ เพื่อไม่ให้มันเป็นแมวที่เบื่อโลกเซื่องซึมประมาณนั้น แมวพวกพันธุ์นี้มันต้องการความรักและการเอาใจใส่เรื่องการเล่นกับมันมาก ๆ เลย



แมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายากมว๊ากและมีราคาสูงลิบ แต่ถ้าหาในไทยคงแทบไม่มีนะคะ  เพราะขนาดประเทศอเมริกาซึ่่งเป็นประเทศที่นำสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงยังหายากเลย  แล้วถ้าพูดถึงความเป็นที่รู้จักของแมวสายพันธุ์นี้คงน้อยมาก ๆ ถ้าไปพูดให้คนอื่นฟังอาจท้วงว่าหมายถึงสุนัขรึเปล่า 555 (ถ้าไม่เคยดูรายการ 101 CAT ก็คงไม่รู้จักหรอกค่ะ อิอิ) อยากให้รู้จักกันไว้นะคะ  จะได้เป็นความรู้ประดับสมอง